วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

รู้ทันแก๊งขโมยรถ!


ยังคงระบาดทั่ว ทุกหัวระแหง สำหรับแก๊งขโมยรถไม่ว่ารถเก๋ง กระบะ มอเตอร์ไซค์ ฯลฯ ต่างโดนขโมยกันถ้วนหน้า แม้มีระบบรักษาความปลอดภัยล้ำสมัยเพียงไร หัวขโมยตัวแสบก็สามารถลักรถไป ได้อย่างสบาย ยิ่งสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในปัจจุบันนี้ทำให้บรรดา แก๊งหัวขโมยระบาดหนักและมีวิวัฒนาการล้ำสมัยขึ้นทุกวัน
เพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกขโมยรถโดยเหล่ามิจฉาชีพ รักชาติ แสงวงศ์ หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมยานยนต์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงสถานการณ์ขโมยรถว่า ส่วนใหญ่เน้นขโมยรถกระบะมากกว่า ประเภทอื่น เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นตลาดมืดในการขายของกลุ่มมิจฉาชีพมีความต้องการสูงมากกว่ารถประเภทอื่น ขณะเดียวกันก็ มีการสั่งรถตามออร์เดอร์ที่ตลาดมืดต้องการ และยังมีการขโมยเพื่อชำแหละชิ้นส่วนขายหรือนำรถไปขายตามเต็นท์รถมือสอง
การถูกขโมยรถส่วนใหญ่เป็นความประมาทของเจ้าของ เพราะหลายครั้ง เจ้าของรถเข้าไปใช้บริการ ทำความสะอาดรถหรือเข้า ไปเติมน้ำมัน มักให้กุญแจ รถไว้กับพนักงานโดยไม่สนใจดูแล เพราะถ้าพนักงานคนดังกล่าวเป็นมิจฉาชีพก็สามารถก๊อบปี้กุญแจรถได้ ทันที และเจ้าของรถไม่ควร ให้ผู้อื่นมาลองขับรถของตน เนื่องจากเมื่อเจ้าของขึ้นไปปลดล็อกบนรถ คนร้ายจะสังเกตการณ์การปลดล็อกระบบป้องกันภายในทั้งหมด ทำให้สามารถจดจำได้ว่า ตรงไหนมีระบบป้องกันบ้าง ซึ่ง ในการโจรกรรมนั้นคนร้ายจะ เตรียมเครื่องมือมาพร้อม
อย่างไรก็ดีการโจรกรรมคนร้ายส่วนใหญ่มักก๊อบปี้ลายกุญแจรถหรือทำลายแม่กุญแจรถในรถที่ไม่มีระบบป้องกันภายนอก ขณะเดียวกันหากฝาปิดถังน้ำมันรถหายให้สังหรณ์ใจไว้ว่า ถูกก๊อบปี้ลูกกุญแจรถ เนื่องจากฝา ปิดถังน้ำมันจะใช้กุญแจเดียวกับกุญแจสตาร์ทรถ เมื่อมิจฉาชีพได้ฝาปิดถังน้ำมันไปก็สามารถก๊อบปี้กุญแจรถได้ ดังนั้นเจ้าของรถต้องสำรวจกุญแจบริเวณตัวถังรถก่อนทุกครั้งที่ขึ้นรถ เพราะอาจมีร่องรอยขูดขีดให้สังเกตเห็นการก๊อบปี้กุญแจของคนร้าย ส่วนกรณีฝาถังน้ำมันหายต้องรีบเปลี่ยนกุญแจรถทั้งคันทันที การสูญหายปัจจัยหลักสำคัญคือ คนใกล้ตัวกลายเป็นมิจฉาชีพเสียเอง ซึ่งผู้ใช้รถต้องระวังอย่างมากในสภาวะปัจจุบัน
สำหรับ รถรุ่นใหม่ที่มีระบบป้องกันการล็อกรถด้วยรีโมตที่พอกดปุ๊บไฟจะกะพริบ เสี่ยงที่จะถูกขโมยง่ายกรณีที่ไม่ติดตั้งสัญญาณร้องกันขโมย เพราะขโมยอาจช็อตสายไฟที่เป็นต้นขั้วรับสัญญาณล็อกจากรีโมตทำให้ระบบปลดล็อกทั้งคันขโมยจึงสามารถเปิดประตู รถเข้าไปได้ง่าย บางรายทำการก๊อบปี้สัญญาณความถี่จากรีโมต เช่น เหยื่อขับรถไปจอดในห้างสรรพสินค้าที่มีรถด้านข้างจอดอยู่ คนร้ายจะแอบในรถด้านข้างรอเวลาเจ้าของรถกดสัญญาณล็อกจากรีโมตแล้ว ใช้เครื่องมือก๊อบปี้สัญญาณจากรีโมตของเจ้าของ พอคนร้ายเห็นว่าปลอดคน จะใช้เครื่องมือปล่อยสัญญาณความถี่ที่ก๊อบปี้ได้เพื่อปลดล็อกรถ ดังนั้นการติดตั้งระบบล็อกแบบรีโมตที่ดีต้องดูอุปกรณ์ที่มีการป้อน รหัสเอฟเอ็ม ซึ่งเจ้าของต้องซื้อเพิ่มมาติดตั้งเอง
รูปแบบการขโมยด้วยการทำลายกระจกหลังเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง การป้องกันที่ช่วยถ่วงเวลาให้ขโมยทำงานยากคือ ระบบป้องกันภายในรถ ซึ่งการเลือกซื้อระบบป้องกันภายในไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่เป็นของแถมเพราะมีความบอบบาง และระบบป้องกันภายในไม่ควรใช้ยี่ห้อเดียวกันเพราะคนร้ายจะง่ายต่อการขโมย
การป้องกันภายในรถควรใช้อุปกรณ์ที่เป็นเหล็กกล้าอย่างหนาล็อกเกียร์, พวงมาลัย, เบรก ให้แน่นเพราะคนร้ายส่วนใหญ่จะทำการเลื่อยอุปกรณ์เหล่านี้ออกเพื่อโจรกรรมรถ ถ้าคล้องไว้แน่นก็ทำให้ขโมยทำงานยาก ไม่สามารถขยับอุปกรณ์ป้องกันได้ตามที่ต้องการ แต่ถ้าให้แน่นอนต้องล็อกล้อโดยยึดแผงล็อกไว้กับพื้นปูนทำให้โจร ใช้เวลานานในการขโมย ขณะเดียวกันเจ้าของที่ซื้อรถต้องรู้ว่าจุดไหนเป็นตัวจ่ายไฟและน้ำมันในการทำงานของรถ เพราะสองระบบนี้เป็น หัวใจของการขโมยรถ หากกรณีที่เจ้าของมีความหวาด ระแวงอาจจ้างช่างที่มีความไว้ วางใจในการแปลงระบบเพื่อซ่อนต้นขั้วของระบบไว้ในที่ใหม่ของตัวถังรถพร้อมกับทำตัวเปิด-ปิดระบบไว้ป้องกันการขโมย แต่ง่ายสุดโดยไม่ต้องลงทุนเจ้าของต้องถอดขั้วแบตเตอรี่ออกทุกครั้ง หลังเลิกใช้งานหรือยกหม้อแบตเตอรี่เข้าไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยหลังใช้งาน เพราะการป้องกันแบบง่าย ๆ บางครั้งขโมยก็คาดไม่ถึง
ขณะที่การจอดรถยังเป็นอีกปัจจัยที่เจ้าของพึงระวัง จึงไม่ควรจอดรถไว้หลังรถบัสหรือรถเมล์ที่มีขนาดใหญ่ ทำให้หัวขโมยมีที่กำบังในการลักรถ ควรจอดรถไม่ให้ไกลตาคน และที่สำคัญเมื่อออกรถใหม่ไม่ควรจอดรถในลักษณะโชว์ เพราะคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ซื้อ รถมาชอบจอดโชว์ พอขโมยเห็นวันแรกอาจไม่ขโมยแต่วันต่อ ๆ ไปจะค่อย ๆ สะกดรอยตามจนหาโอกาสขโมยได้ ถ้าไม่มีพื้นที่ปลอดภัยในการจอดควรซื้อผ้าคลุมรถที่มีราคาถูกเพื่อตบตาขโมย ส่วนคนที่มีพื้นที่บ้านในการจอดรถควรหันหน้ารถเข้าบ้าน เพราะถ้าถูกขโมยเจ้าของบ้านจะได้รู้ตัวเพราะเกียร์ถอยหลังมีอยู่เกียร์เดียว แต่ถ้าหันหน้ารถออกคนร้ายสามารถเร่งความเร็วได้หลายเกียร์
เพื่อป้องกันรถหาย เจ้าของควรติดสติกเกอร์สัญลักษณ์ไว้บนรถอย่างชัดเจน และนำตะไบทำ สัญลักษณ์ไว้บนตัวถังภายในและบนเครื่องยนต์พร้อมกับถ่ายรูปเก็บไว้บนมือถือ เมื่อถูกลักรถสามารถส่งภาพที่ถ่ายไว้ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที
บางกรณีคนร้ายทำการขโมยแบบซึ่ง ๆ หน้า ด้วยการใช้กลอุบายหลอกล่อให้เจ้าของลงมาจากรถขณะเครื่องยนต์สตาร์ตอยู่ โดยหัวขโมยจะแอบขึ้นไปบนรถขณะเจ้าของลงมาจากรถ เหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้ หญิงซึ่งหากประสบเหตุดังกล่าวต้องพยายามขับรถออกจากสถานที่เปลี่ยวตรงนั้นให้ได้ก่อน แล้วเมื่อถึงที่ชุมชนค่อยลงมาดูรถ การซื้อรถมือสองเองควรเปลี่ยนกุญแจในรถใหม่ทั้งคันเพราะเราไม่รู้ว่าเจ้าของคนเดิมมีกุญแจ สำรองไว้หรือเปล่า เพราะหากเจ้าของเก่าเป็นมิจฉาชีพอาจกลับมาขโมยรถ
ส่วนคนที่พอมีเงินติดตั้งสัญญาณเตือนแบบเสียงเตือนเมื่อมีคนมาสัมผัสรถ ไม่ควรตั้งเสียงให้เหมือน กับแตรรถเพราะหากคนไม่สังเกตจะนึกว่ามีคนกดแตรรถเล่นมากกว่าเป็นสัญญาณกันขโมย ที่สำคัญไม่ควรทิ้ง ของมีค่าไว้ในรถเพราะเมื่อคนร้ายส่องผ่านกระจกเข้าไปในรถพอเห็นของมีค่าก็ทำ การทุบกระจกรถยนต์ ซึ่งเมื่อทุบแล้วถ้าปลอดคนและไม่มีระบบป้องกันคนร้ายก็จะเข้าไปภายในรถเพื่อไขกุญแจ
ขณะที่การป้องกัน การโจรกรรมรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนใหญ่คนร้ายจะยกขึ้นรถกระบะทันที จึงควรหาที่ล็อก ล้อยึดไว้กับพื้นซีเมนต์ หรือหากุญแจและหูช้างมาคล้องไว้บริเวณรูของดิสก์เบรก ซึ่งทุกครั้งควรล็อกอย่างแน่นหนาไม่ควรให้ขยับเคลื่อนเพราะคนร้ายสามารถเลื่อนไปมาได้ขณะเลื่อยกุญแจ
เดี๋ยวนี้ระบบการ ขโมยรถพัฒนาเท่าทันเทคโนโลยีหมด ต่อให้มีความก้าวล้ำในการป้องกันมากแค่ไหน ผู้ใช้รถจึงต้องมีจิตสำนึกในการหาที่จอดและการประเมินสถานการณ์ด้วยตนเองก่อนในเบื้องต้น แต่ถ้า รถหายควรแจ้ง จส.100หรือโทรฯหมายเลขพิเศษ 1192 และสถานีวิทยุที่ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าของควรส่งสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนรถที่ถ่ายไว้บนมือถือไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อสกัดกั้นก่อน นำไปขายยังชายแดนและชำแหละเครื่องยนต์รักชาติ กล่าวสรุป
จากการรวบรวมสถิติของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปร. ตร.) พบว่า เขตในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่มีรถหายมากที่สุดคือ บางกะปิ ดินแดง จตุจักร วังทองหลาง คลองเตย มีนบุรี ประเวศ บางแค ธนบุรี บางขุนเทียน ตามลำดับ ด้านสถานที่เกิดเหตุรถยนต์หายมากที่สุดตามลำดับคือ ถนนและซอย, สถานที่สาธารณะ, ที่พักอาศัย, ห้างสรรพสินค้า, สถานประกอบการธุรกิจ, สถานที่ราชการ ขณะที่เวลาในการขโมยรถยนต์มากที่สุดตามลำดับคือ 16.00- 20.00 น., 20.00-24.00 น., 00.01-04.00 น., 04.00-08.00 น., 08.00-12.00 น. และ12.00-16.00 น.
ด้านสถานที่ซึ่งมีการขโมยรถจักรยานยนต์มาก ที่สุดตามลำดับคือ ถนนและซอย, สถานที่สาธารณะ, ที่พักอาศัย, สถานที่ประกอบธุรกิจ, สถานที่ราชการ ส่วนช่วงเวลาขโมยมากที่สุดตามลำดับคือ 00.01-04.00 น., 20.00-24.00น., 16.00- 20.00 น., 04.00-08.00 น., 08.00-12.00 น. และ 12.00- 16.00 น.
ดูเหมือนนับวัน เทคโนโลยีป้องกันการ ขโมยรถทันสมัยมากขึ้น แต่ยังไม่พ้นเงื้อมมือเหล่ามิจฉาชีพ คนร้ายที่จับได้หลายครั้งเป็นเพียงลูกน้องปลายแถว คงไม่ต้องให้ประชาชนตั้งคำถามว่า...ถึงเวลาหรือยังที่ต้องกวาดล้างผู้บงการใหญ่?

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น