วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เรื่องจริงผ่านจอ (คอมพิวเตอร์)

เกริ่นกันก่อน



สวัสดีครับ เพื่อนๆทุกคนเป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับวันนี้ ช่วงนี้สบายดีกันไหมครับ หลังจากที่ประเทศของเราผ่านพ้นวิกฤตทางการเมืองมาได้ หลายๆท่านที่ได้รับผลกระทบก็คงลำบากกันหน่อยในช่วงนี้ แต่อีกไม่นานเชื่อว่าเรื่องราวร้ายๆต่างๆในประเทศของเราจะหายไปกับหน้าร้อนที่กำลังจะหมดไป ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ก็รักษาสุขภาพกันด้วยนะครับ ระวังหวัดจะถามหา ถ้าหวัดถามหาก็ให้บอกไปว่าไม่อยู่นะ (-.-") เกี่ยวกันไหมเนี่ย!! และช่วงนี้เป็นเทศกาลฟุตบอลโลกหลายๆท่านก็คงได้ติดตามข่าว และเชียร์ทีมโปรดของแต่ละคนอยู่ หลายๆคนขอบตาดำ และไปหลับในที่ทำงาน เพราะอดหลับอดนอนเชียร์ทีมโปรดของตน (ให้ทำไงได้ 4 ปีมีครั้งนี่เนอะ ^^)

แต่ก็ต้องระวังกันด้วยนะครับอย่าเชียร์บอลเพลิน ช่วงนี้มีข่าวออกมาบ่อยๆ เรื่องรถถูกโจรกรรม ยิ่งเมื่อคืน TOD ได้ติดตามชมรายการเรื่องจริงผ่านจอ (24/06/2553) เกี่ยวกับการโจรกรรมรถ เนื้อหารายการเปิดโปงถึงขั้นตอนวิธีในการโจรกรรม และที่สำคัญทางรายการเปิดเผยด้วยว่าถ้ารถถูกโจรกรรมไปภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง รถคันโปรดของคุณอาจกลายเป็นเพียงเศษเหล็กไร้ค่า โหหย !! ช่างทำกันได้นะครับคนเรา อุตสาห์เก็บหอมรอมริบมาแทบตายกว่าจะตัดสินใจออกรถมาสักคันนึง วันดีคืนดีจากที่จอดอยู่ประจำ กลับหายไปต่อหน้าต่อตา เป็นใครจะทำใจได้(T.T) ถ้าเป็น TOD คนหนึ่ง TOD ก็คงจะเป็นลมล้มทั้งยืนอยู่ตรงนั้นแล้วล่ะครับ




เหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดแบบนี้ ก็ทำให้หลายๆท่านพยายามสรรหาวิธีการต่างๆนานา เพื่อปกป้องรถสุดที่รักของตัวเอง ไม่ให้ถูกพวกหัวขโมยกระทำย่ำยี บางท่านก็ล็อกแล้วล็อกอีก ล็อกตั้งแต่ประตูรถไปยันพวงมาลัย โจรตัวแสบก็ยังอุตสาห์เอารถของเราไปได้ (ถ้าจับได้ละน่าดู หึ -*-) บางท่านก็ลงทุนติดสัญญาณกันขโมยรถยนต์ ร้องปี้ป่อๆกันดังสนั่น แต่บางครั้งยังไม่มีใครทำอะไรกับรถของเราเลยก็เจ้าสัญญาณกันขโมยก็ร้องแล้ว (หรือว่าจะเป็นระบบขู่ขโมยไม่ให้เข้ามาใกล้นะ ??) ร้องจนเป็นนิสัย จนบางท่านเลิกสนใจกับเสียงร้อง กดปิดเสียงเลยก็มี หรือบางทีจอดรถอยู่ในสถานที่ที่ไกลๆ เกินกว่ารีโมทจะรับสัญญาณเตือนภัยได้ พอเดินกลับมาอีกทีรถก็อันตธานหายไปอย่างไร้ร่องรอย บางท่านโชคดี รถถูกขโมยได้ไม่นานสามารถตามกลับมาได้ แต่หลายๆท่านก็ไม่สามารถติดตามรถสุดที่รักกลับมาได้ ปัญหาของการป้องกันรถแบบนี้อยู่ที่ถ้าเรารู้เร็วก็จะยิ่งสามารถติดตามรถกลับมาได้เร็ว แต่ถ้ารู้ช้าเท่าไร โอกาสที่จะได้รถกลับคืนมาก็ยิ่งน้อยตามไปด้วย




ระบบ GPS



ปัญหาจากจุดนี้นี่เองทำให้เทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารด้วยระบบ GPS เข้ามามีบทบาทและกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน สำหรับผู้ที่รักรถยอมลงทุนติดตั้ง GPS เพื่อให้ทราบตำแหน่งของรถเราอยู่ตลอดเวลาผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่ระบบ GPS ของแต่ละบริษัทในปัจจุบันนี้ ยังไม่มีระบบที่เข้ามาช่วยป้องกันการโจรกรรมอย่างเต็มที่ คือระบบ GPS ทั่วๆไปจะไม่มีการแจ้งเตือนเมื่อรถถูกโจรกรรม เราจะติดตามรถได้เมื่อเรารู้ว่ารถถูกโจรกรรมไปแล้วเท่านั้น เราจึงค่อยส่ง sms ไปถามตำแหน่ง ซึ่งตำแหน่งที่ได้ก็เป็นแค่ตำแหน่งตอนช่วงที่ส่ง sms ไปถามเท่านั้น บางครั้งกว่าจะรู้ว่าถูกโจรกรรม คนร้ายกลับเป็นฝ่ายรู้ก่อนว่ารถติด GPS และทำลายทิ้งไปอีก เท่ากับว่าเราก็ไม่สามารถติดต่อรถเราได้ แถมเสียเงินรายเดือนฟรีให้กับบริษัทติด GPS เหล่านั้นอีก เป็นเหตุทำให้คิดว่าคงไม่มีระบบอะไรที่จะปกป้องน้องรถสุดที่รักของเราได้แน่แล้ว เฮ่อ!! คิดแล้วเศร้าใจ


TOTAL DIGITAL มีคำตอบ



แต่เดี๋ยวก่อน!!! อย่าเพิ่งท้อแท้และหมดหวังถึงวิธีการปกป้องรถสุดที่รักของคุณ เพราะวันนี้ TOD มีข่าวดีมาบอกต่อ บริษัTotaldigital ได้เล่งเห็นถึงปัญหาตรงข้อนี้ และได้พัฒนาระบบป้องกันการโจรกรรมรถของท่านแบบ RealTime อีกด้วย เอ๊ะ!! แล้วมัน RealTime ยังไง TOD จะอธิบายง่ายๆเลยก็คือว่า ระบบ TOD ANTI-THEFT-1 จะส่งข้อความ sms แจ้งเตือนถึงมือถือของคุณทันที ที่ประตูรถของคุณเปิดโดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจให้เปิด หรืออยู่ๆรถสตาร์ดเครื่องเอง คุณก็จะรับรู้ได้ทันที แต่ถ้าคุณอยู่ไกลจากรถคุณมากๆ คุณสามารถส่งข้อความ sms ไปเปิดเครื่อง GPS ให้ตื่นและส่งตำแหน่งปัจจุบันของรถคุณมา เพียงแค่นี้คุณก็สามารถติดตามรถของคุณได้แล้ว แต่อย่าให้เจ้าหัวขโมยขับรถสุดที่รักของคุณออกไปไกลกว่านี้เลย คุณก็ส่งข้อความ SMS ไปสั่ง GPS ให้ดับเครื่องยนต์ซะ เรียบร้อยโรงเรียนโจรแล้วครับ คนร้ายไม่สามารถสตาร์ดเครื่องยนต์ได้อีกต่อไป ถ้ามันพยายามจะขโมยต่อก็คงต้องเข็นไปอย่างเดียวแล้วละครับ ที่เหลือคุณก็แค่แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ไปลากคอคนร้าย ตามตำแหน่งที่ GPS ของคุณส่งพิกัดมา โอ้!!! มายยยก็อด พระเจ้าจอร์ดมันยอดมากขนาดนั้นเลยเหรอ งั้น TOD จะสรุปข้อดีของมันง่ายๆ เลยนะครับ

1. คุณรู้ได้ทันทีที่ประตูรถถูกเปิด หรือ เครื่องยนต์สตาร์ด จากข้อความ sms ที่จะส่งมาแจ้งเตือนคุณทันที
2. คุณสามารถสั่งหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ได้ทันที ผ่านโทรศัพท์มือถือ
3. ถ้ารถของคุณถูกลาก หรือ ออกจากตำแหน่งปัจจุบัน ข้อความ sms จะถูกส่งมาแจ้งเตือนคุณทันทีอีกเช่นกัน
4. รู้ตำแหน่งรถของคุณในปัจจุบันได้ทันที
5. สามารถดูการเคลื่อนไหวรถคุณแบบ realtime ทุกๆ 10 วินาที ผ่าน internet
6. ทุกการเคลื่อนไหวของรถคุณถูกบันทึกลงระบบ สามารถดูย้อนหลังได้
7. ใช้งานง่ายด้วย Remote Control เปิดปิดเครื่อง GPS แบบเดียวกับที่ใช้เปิดปิดสัญญาณกันขโมยแบบส่งเสียงร้องและสั่งงานผ่านโทรศัพท์มือถือของคุณเอง

ก่อนจบ

เห้อ('.' !) เหนื่อย หลังจากบ่นมานาน ก็มันน่าไหมล่ะ รถเราแท้ๆ จะยอมให้ใครมาเอาไปง่ายๆได้ยังไง เอาล่ะครับเพื่อนๆ สำหรับวันนี้ TOD คงมาฝากเรื่องราวข่าวคราวไว้เพียงเท่านี้ก่อน ถ้ามีข้อมูลข่าวสารอะไรเพิ่มเติมก็คงได้มาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆกันใหม่ แต่ถ้าท่านใดต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปชมกันได้ที่
นะครับ และเร็วๆนี้ TOD กำลังทำ facebook ไว้เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆ และคงจะได้เอาลิงค์มาโพสกันในนี้ต่อไป สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆสนุกกับเทศกาลฟุตบอลโลก เชียร์ทีมไหนรักทีมไหนก็ขอให้เชียร์อย่างสบายใจไม่ต้องห่วงว่ารถจะหาย ^^ และที่สำคัญอย่าเล่นการพนันเลยนะครับ เพราะต่อให้ติด GPS ซักสิบเครื่องก็ไม่สามารถช่วยท่านให้ตามรถกลับมาได้ในเรื่องนี้ ...... ^^

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รู้จักกับ GPS Tracking



GPS คืออะไร?? และอะไรคือ GPS?? TOD เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ ท่าน ยังคงมีคำถามนี้อยู่ในใจ แล้วยิ่งมาเจอกับคำว่า GPS Tracking อีก ไหนจะมี GPS Navigator อีก อะไรๆ ก็ดูเหมือนจะเป็น GPS ไปหมด แล้วทั้ง 2 คำนี้มันแตกต่างกันอย่างไรนะ เอ๊ะ! แล้วมันทำงานต่างกันไหมนะ เพื่อไขข้อข้องใจของหลายๆท่าน บทความสำหรับวันนี้ TOD จะขออธิบายให้ทุกท่านได้ทราบถึงหลักงานทำงานเบื้องต้นของอุปกรณ์ทั้ง 2 ตัวนี้ ด้วยภาษาง่ายๆ สบายๆ สไตล์ totaldigital กัน นะครับ



GPS ย่อมาจาก...

ก่อนที่เราจะรู้จักการทำงานของเจ้า GPS เรามารู้จักก่อนว่า คำว่า GPS เนี่ย มันย่อมาจากคำว่าอะไร?
เจ้า GPS เนี่ยมันย่อมาจากคำว่า Global Positioning System แล้วมันแปลว่าอะไรหว่า ?? งั้น TOD ขอ
ตัวไปเปิด Dictionary ก่อนนะครับ ..... มาแล้วครับ อิอิ หลังจากไปเปิด Dic มาพอจะแปลได้ว่า "ทั่วโลกตำแหน่งระบบ" หาา!! อะไรกันเนี่ย ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ งั้นขอลองเรียบเรียงแปลให้มันมีความหมายก็จะได้ว่า GPS ก็คือ "ระบบที่สามารถระบุตำแหน่งต่างๆได้ทั่วโลก" นั่นเอง เฮ่อ ค่อยยังชั่วหน่อย แต่! แล้วมันใช้วิธีการไหนในการระบุตำแหน่งต่างๆได้ทั่วโลกล่ะ TOD ก็จะขออธิบายง่ายๆ ว่าตำแหน่งที่ได้นั้นมาจากการคำนวนพิกัดของดาวเทียมระบุพิกัดที่ลอยอยู่ในอวกาศมากมายถึง 24 ดวง ทั่วโลกนั่นเอง หรือง่ายๆก็คือมีดาวเทียวถึง 24 ดวงที่ค่อยหาตำแหน่งที่เครื่องรับสัญญาณ GPS อยู่ จึงมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่ตรงส่วนไหนบนพื้นผิวโลก ถ้าคุณพกเครื่องรับสัญญาณ GPS อยู่ TOD ก็สามารถรู้ได้ทันที ว่าคุณอยู่ตรงไหนของโลก จากค่าพิกัด Latitude และ Longitude ที่ได้จากเครื่องรับสัญญาณ GPS นั่นเอง จากความสามารถตรงนี้เองของ GPS เราจึงสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลาย แต่ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันมีอยู่ 2 ระบบ คือ GPS Navigator และ GPS Tracking มาล่ะครับ 2 คำนี้ที่ TOD ได้เกริ่นไว้ตอน
เริ่มบทความ ทีนี้เราจะมาดูกันว่าทั้งสองระบบแตกต่างกันอย่างไรโดย TOD จะขออธิบาย ถึง GPS Navigator ก่อนนะครับ


GPS Navigator



มาเริ่มกันที่ GPS Navigator เลยนะครับ TOD คิดว่าผู้อ่านหลายๆท่านคงเคยดูหนังไฮไฟ กันมาบ้างแล้ว เกี่ยวกับรถที่สามารถสื่อสารกับผู้ขับค่อยบอกเส้นทางคอยเตือนอันตรายเมื่อถึงทางแยก อะไรแบบนี้ สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่จินตนาการเท่านั้นแล้วนะครับ เพราะในปัจจุบันจากเทคโนโลยี GPS สามารถนำมา สร้างเครื่องนำทางเพื่อคอยบอกเส้นทาง ให้กับเราได้ ที่เรียกกันว่า GPS Navigator นั่นเอง โดยเพียงแค่คุณระบุเป้าหมายที่คุณต้องการจะไป เพียงเท่านี้ เจ้าเครื่อง Navigator จะค้นหาเส้นทางและค่อยนำทางคุณตลอดเส้นทางการเดินทาง เหมือนมีคนมานั่งอ่านแผนที่ให้คุณฟังเลยล่ะครับ

แล้วใน GPS Navigator มันมีอะไรบ้างทำไมถึงได้นำเส้นทางเราได้ TOD จะขออธิบายถึงส่วนหลักเป็นข้อๆนะครับ คือ
1. แผนที่ไงล่ะครับ สิ่งที่สำคัญใน GPS Navigator ก็คือ แผนที่ตามแต่ละประเทศของผู้ใช้งาน เพื่อเป็นตัวระบุตำแหน่งจากค่าพิกัด Latitude และ Longitude ว่าตอนนี้คุณอยู่ตรงจุดไหนของประเทศแล้ว ถ้าไม่มีแผนที่มีแต่ค่าพิกัด Latitude กับ Longitude อย่างเดียว ก็คงจะแย่เพราะต่อให้นักธรณีวิทยาเองก็ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่ถูกต้องได้ ในปัจจุบันแผนที่ใน GPS Navigator ค่อนข้างจะละเอียด แสดงให้เห็นถึงตามตรอกซอกซอยเลย

2. GPS Receiver หรือ ตัวรับสัญญาณ GPS ที่ค่อยรับค่าพิกัดจากสัญญาณดาวเทียวประมาณ 3 - 4 ดวง ในการหาตำแหน่งของตัวเครื่อง GPS Navigator ว่าอยู่บนส่วนใดของโลก แล้วไปแสดงผลบนแผนที่จากข้อ 1 นั่งเอง ถ้าเครื่อง GPS Navigator ของคุณไม่มีเจ้าตัว GPS Receiver เครื่องของคุณก็ไม่ต่างจากแผนที่ธรรมดาทั่วไป

3. POI หรือ Point of Interest ส่วนนี้นี่ล่ะครับที่จะทำให้คุณค้นหาเส้นทางไปยังสถานที่ที่คุณต้องการจะไปได้ เพราะ POI ก็คือข้อมูลจุดต่างๆของแผนที่ โดยบริษัทที่ผลิต GPS Navigator จะทำการเก็บข้อมูลพิกัดสถานที่สำคัญต่างๆ จนถึงร้านค้าเล็กๆ หน้าปากซอยบ้านคุณ ไปใส่ไว้ในแผนที่ เพียงเท่านี้ถ้าคุณต้องการไปร้านข้าวแกงเจ๊เล็ก คุณก็สามารถไปได้โดยไม่หลงอีกแล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทด้วยว่าจะเก็บตำแหน่ง POI ไว้มากแค่ไหน จุดนี้จะเป็นส่วนที่ทำให้ราคาของ GPS Naviator แตกต่างกัน ถ้า POI เยอะก็แพงหน่อย ถ้าน้อยราคาก็ลดหลั่นตามไปครับ

GPS Tracking


ต่อไป TOD จะมาอธิบายถึง GPS Tracking นะครับ คำว่า Tracking ถ้าแปลตรงตัวเลยก็คือ การติดตาม ดังนั้น GPS Tracking ก็คือมี GPS ไว้เพื่อติดตามนั่นเอง ในปัจจุบันมีหลายบริษัทที่ทำเจ้าตัว GPS Tracking ขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับในการติดตามสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรถ,เรือ,เด็ก,คนชรา,หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง โดยได้ใส่ option เสริมเข้าไปในตัว GPS Tracking เพื่อให้มันสามารถบอกสิ่งอื่นได้อีกนอกจาก พิกัด Latitude กับ Longitude เท่านั้น โดย GPS Tracking ที่ใช้ในการติดตามรถยนต์ เป็นที่นิยมมากที่สุดในการนำ GPS Tracking มาเพื่อทำการติดตาม โดยได้เพิ่ม Sensor เข้ามาเพื่อหาข้อมูลอื่นๆในรถที่ต้องการทราบ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณน้ำมัน,ปริมาณความร้อน,สถานะการติดเครื่องยนต์,ความเร็วของรถที่วิ่งในขณะนั้น,หรือแม้แต่ทิศทางในการวิ่ง และอื่นๆอีกมากมาย

ของ option แต่ละบริษัทที่ต้องการนำเสนอลูกค้า GPS Tracking ที่นำมาติดรถยนต์นั้นเป็นการนำเทคโนโลยี GPS มาผสมผสานกับเทคโนโลยีโครงข่ายสื่อสาร เช่น สัญญาณวิทยุ, SMS, GPRS ซึ่งจะช่วยให้เราทราบตำแหน่งของรถที่เราติดตามได้แบบ Realtime เลย ทีนี้คุณก็จะรู้ได้ตลอดเวลาว่ารถของคุณอยู่ที่ใดบนโลกนี้


ดังที่ TOD ได้บอกไปนะครับว่า GPS Tracking มีการส่งตำแหน่งของรถกลับมาหาเราโดยผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ แต่หลักๆจะอยู่ที่ SMS และ GRPS โดยทั้งสองช่องทางนี้จะต้องใส่ซิมการ์ดโทรศัพท์ที่เราใช้โทรออกนี่ล่ะครับ ไว้กับเจ้าตัว GPS Tracking ด้วย

1. การรับข้อมูลด้วย SMS การรับข้อมูลแบบนี้จะมีข้อดีตรงที่่คุณไม่ต้องเสียค่าบริการรายเดือน ให้กับผู้บริการด้าน GPS แต่ยังไงก็ต้องเติมเงินไว้ในซิมที่ติดอยู่กับ GPS อยู่ดี เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราต้องการทราบข้อมูลและตำแหน่งของรถ เราก็เพียงแค่ส่ง SMS ซึ่งเป็นข้อความคำสั่ง หรือแค่โทรไปที่เบอร์ที่ติดกับ GPS Tracking ตัวเครื่อง GPS Tracking จะทำการตัดสายของคุณทิ้ง และส่งข้อความที่เป็นข้อมูลกลับมาที่เครื่องของคุณ แล้วคุณก็ต้องนำพิกัดที่ได้จากข้อความไปหาตำแหน่งในเว็บที่ให้บริการด้านแผนที่ เช่น
Google map ซึ่งให้ใช้บริการฟรีไม่เสียเงินครับ ที่นี้คุณก็แค่เติมเงินในเบอร์ที่ติดอยู่กับ GPS Tracking ให้มีเงินอยู่ตลอดเพื่อใช้ในการส่งข้อความกลับมาหาเรา หรือเพื่อความคุ้มค่าคุณก็ลองหาซิมโทรศัพท์ที่มีเพ็กเกตที่ส่งข้อความฟรี หรือถูกๆดูกันนะครับ

2. การรับข้อมูลด้วยสัญญาณ GPRS การรับข้อมูลแบบนี้เหมาะสำหรับบริษัทที่ต้องการติดตามรถของพนักงาน หรือ ผู้ที่ต้องการติดตามรถอยู่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง การรับข้อมูลแบบนี้คุณต้องเสียค่าบริการรายเดือนซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ GPS แต่ละรายล่ะครับ โดยบริษัท GPS จะต้องให้ Software เพื่อใช้ในการติดตามข้อมูลมากับเราด้วย โดยเราสามารถเข้าไปดูข้อมูลผ่าน Software ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง Software แต่ละบริษัทก็จะมีข้อมูล หรือ มีบริการรายงานสรุปข้อมูลต่างๆไว้ให้ตามแต่ละบริษัท


สุดท้ายแล้วนะครับ TOD จะขอสรุปประโยชน์ทีได้จาก GPS Tracking เลยล่ะกัน ดังนี้ครับ

ประโยชน์ที่ได้จาก GPS Tracking

1. ทราบถึงสถานะต่างๆ ในปัจจุบันของสิ่งที่เราต้องการติดตามไม่ว่าจะเป็นคน หรือยานพาหนะ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญ เช่น ตำแหน่ง ในปัจจุบัน

2. ทราบถึงรายงานย้อนหลัง หลายๆ อย่างในระบบยานพาหนะได้ เช่น การคำนวนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่อวัน ระยะทางที่วิ่ง ต่อวันเนื่องจากทั่วไป ระบบ GPS
Tracking ส่วนใหญ่จะมีรายงานย้อนหลัง เพื่อใช้ใน
วิเคระห์สำหรับผู้ดูแลระบบ

3. เพิ่มความปลอดภัยในการขนส่ง เนื่องจาก
สามารถทราบตำแหน่ง และความเร็วของยานพาหนะ ในปัจจุบันได้ ทำให้สามารถเตือนผู้ขับขี่ได้เมื่อมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการประสบอุบัติเหตุ รวมถึงบางผู้ผลิตสามารถมีระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติมายังผู้ควบคุมและไปยังพนักงานขับรถได้ในทันที ที่มีปัจจัยเสี่ยงตามเงื่อนไข เช่น
วิ่งเร็วเกินที่กำหนด หรือ วิ่ง ออกนอกเส้นทางที่วางแผนไว้

4. วางแผนเส้นทางทำงานล่วงหน้า ผู้ผลิต GPS Tracking บางราย อาจเพิ่มระบบที่สามารถวางแผนงานไว้ล่วงหน้าก่อนการเดินทางจะมาถึง และ ระบบสามารถวิเคราะห์ แจ้งเตือนเมื่อมีการทำงานนอกแผนที่วางไว้

5. ลดการทุจริต ผู้ผลิต GPS Tracking บางราย อาจมีระบบในติดตามยานพาหนะ สามารถตรวจสอบระดับน้ำมันเชื้อเพลิง และสามารถสรุปสถานะการจอดรถได้ว่า พนักงานจอดรถติดเครื่องอยู่ หรือจอดรถดับเครื่อง ในเวลากี่นาที ซึ่งจะเป็นข้อมูลอย่างดีในกรณี เกิดการขโมยน้ำมันเชื้อเพลิง หรือแอบขายอะไหล่ ได้

สุดท้าย...

เป็นอย่างไรกันบางครับ บทความนี้พอที่จะช่วยให้ทุกท่านเข้าใจเกี่ยวกับ GPS ขึ้นบางไหมครับ TOD หวังว่าบทความนี้จะมีส่วนในการช่วยให้ท่านมีความเข้าใจขึ้นมาบ้างแม้จะ นิดดดดดดดดดดดดดดเดียว ก็ตาม แต่ถ้าหากยังมีข้อสงสัยหรือต้องการทราบรายละเอียดมากขึ้น สามารถชมกันต่อได้ที่


ก่อนจากกันไปสำหรับบทความนี้นะครับ TOD อยากให้ เพื่อนๆที่มีความสนใจเกี่ยวกับ GPS ลองศึกษาข้อมูลจากหลายๆที่ เลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานของท่าน ถ้าต้องการระบบที่ใช้ในการป้องกันการโจรกรรมรถจริงๆ ก็ควรเลือกและศึกษาถึงระบบที่ใช้ในการป้องกันจริงๆ ไม่ใช่ระบบผลพลอยได้ที่ได้จากการติด GPS ทั้งนี้เพื่อความคุ้มค่ากับการใช้งานและเงินทุกบาทที่ท่านเสียไปนะครับ .....ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ