วันอาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557

รู้ทันแก๊งขโมยรถ!


ยังคงระบาดทั่ว ทุกหัวระแหง สำหรับแก๊งขโมยรถไม่ว่ารถเก๋ง กระบะ มอเตอร์ไซค์ ฯลฯ ต่างโดนขโมยกันถ้วนหน้า แม้มีระบบรักษาความปลอดภัยล้ำสมัยเพียงไร หัวขโมยตัวแสบก็สามารถลักรถไป ได้อย่างสบาย ยิ่งสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในปัจจุบันนี้ทำให้บรรดา แก๊งหัวขโมยระบาดหนักและมีวิวัฒนาการล้ำสมัยขึ้นทุกวัน
เพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกขโมยรถโดยเหล่ามิจฉาชีพ รักชาติ แสงวงศ์ หัวหน้าสาขาวิชาวิศวกรรมยานยนต์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงสถานการณ์ขโมยรถว่า ส่วนใหญ่เน้นขโมยรถกระบะมากกว่า ประเภทอื่น เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นตลาดมืดในการขายของกลุ่มมิจฉาชีพมีความต้องการสูงมากกว่ารถประเภทอื่น ขณะเดียวกันก็ มีการสั่งรถตามออร์เดอร์ที่ตลาดมืดต้องการ และยังมีการขโมยเพื่อชำแหละชิ้นส่วนขายหรือนำรถไปขายตามเต็นท์รถมือสอง
การถูกขโมยรถส่วนใหญ่เป็นความประมาทของเจ้าของ เพราะหลายครั้ง เจ้าของรถเข้าไปใช้บริการ ทำความสะอาดรถหรือเข้า ไปเติมน้ำมัน มักให้กุญแจ รถไว้กับพนักงานโดยไม่สนใจดูแล เพราะถ้าพนักงานคนดังกล่าวเป็นมิจฉาชีพก็สามารถก๊อบปี้กุญแจรถได้ ทันที และเจ้าของรถไม่ควร ให้ผู้อื่นมาลองขับรถของตน เนื่องจากเมื่อเจ้าของขึ้นไปปลดล็อกบนรถ คนร้ายจะสังเกตการณ์การปลดล็อกระบบป้องกันภายในทั้งหมด ทำให้สามารถจดจำได้ว่า ตรงไหนมีระบบป้องกันบ้าง ซึ่ง ในการโจรกรรมนั้นคนร้ายจะ เตรียมเครื่องมือมาพร้อม
อย่างไรก็ดีการโจรกรรมคนร้ายส่วนใหญ่มักก๊อบปี้ลายกุญแจรถหรือทำลายแม่กุญแจรถในรถที่ไม่มีระบบป้องกันภายนอก ขณะเดียวกันหากฝาปิดถังน้ำมันรถหายให้สังหรณ์ใจไว้ว่า ถูกก๊อบปี้ลูกกุญแจรถ เนื่องจากฝา ปิดถังน้ำมันจะใช้กุญแจเดียวกับกุญแจสตาร์ทรถ เมื่อมิจฉาชีพได้ฝาปิดถังน้ำมันไปก็สามารถก๊อบปี้กุญแจรถได้ ดังนั้นเจ้าของรถต้องสำรวจกุญแจบริเวณตัวถังรถก่อนทุกครั้งที่ขึ้นรถ เพราะอาจมีร่องรอยขูดขีดให้สังเกตเห็นการก๊อบปี้กุญแจของคนร้าย ส่วนกรณีฝาถังน้ำมันหายต้องรีบเปลี่ยนกุญแจรถทั้งคันทันที การสูญหายปัจจัยหลักสำคัญคือ คนใกล้ตัวกลายเป็นมิจฉาชีพเสียเอง ซึ่งผู้ใช้รถต้องระวังอย่างมากในสภาวะปัจจุบัน
สำหรับ รถรุ่นใหม่ที่มีระบบป้องกันการล็อกรถด้วยรีโมตที่พอกดปุ๊บไฟจะกะพริบ เสี่ยงที่จะถูกขโมยง่ายกรณีที่ไม่ติดตั้งสัญญาณร้องกันขโมย เพราะขโมยอาจช็อตสายไฟที่เป็นต้นขั้วรับสัญญาณล็อกจากรีโมตทำให้ระบบปลดล็อกทั้งคันขโมยจึงสามารถเปิดประตู รถเข้าไปได้ง่าย บางรายทำการก๊อบปี้สัญญาณความถี่จากรีโมต เช่น เหยื่อขับรถไปจอดในห้างสรรพสินค้าที่มีรถด้านข้างจอดอยู่ คนร้ายจะแอบในรถด้านข้างรอเวลาเจ้าของรถกดสัญญาณล็อกจากรีโมตแล้ว ใช้เครื่องมือก๊อบปี้สัญญาณจากรีโมตของเจ้าของ พอคนร้ายเห็นว่าปลอดคน จะใช้เครื่องมือปล่อยสัญญาณความถี่ที่ก๊อบปี้ได้เพื่อปลดล็อกรถ ดังนั้นการติดตั้งระบบล็อกแบบรีโมตที่ดีต้องดูอุปกรณ์ที่มีการป้อน รหัสเอฟเอ็ม ซึ่งเจ้าของต้องซื้อเพิ่มมาติดตั้งเอง
รูปแบบการขโมยด้วยการทำลายกระจกหลังเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง การป้องกันที่ช่วยถ่วงเวลาให้ขโมยทำงานยากคือ ระบบป้องกันภายในรถ ซึ่งการเลือกซื้อระบบป้องกันภายในไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่เป็นของแถมเพราะมีความบอบบาง และระบบป้องกันภายในไม่ควรใช้ยี่ห้อเดียวกันเพราะคนร้ายจะง่ายต่อการขโมย
การป้องกันภายในรถควรใช้อุปกรณ์ที่เป็นเหล็กกล้าอย่างหนาล็อกเกียร์, พวงมาลัย, เบรก ให้แน่นเพราะคนร้ายส่วนใหญ่จะทำการเลื่อยอุปกรณ์เหล่านี้ออกเพื่อโจรกรรมรถ ถ้าคล้องไว้แน่นก็ทำให้ขโมยทำงานยาก ไม่สามารถขยับอุปกรณ์ป้องกันได้ตามที่ต้องการ แต่ถ้าให้แน่นอนต้องล็อกล้อโดยยึดแผงล็อกไว้กับพื้นปูนทำให้โจร ใช้เวลานานในการขโมย ขณะเดียวกันเจ้าของที่ซื้อรถต้องรู้ว่าจุดไหนเป็นตัวจ่ายไฟและน้ำมันในการทำงานของรถ เพราะสองระบบนี้เป็น หัวใจของการขโมยรถ หากกรณีที่เจ้าของมีความหวาด ระแวงอาจจ้างช่างที่มีความไว้ วางใจในการแปลงระบบเพื่อซ่อนต้นขั้วของระบบไว้ในที่ใหม่ของตัวถังรถพร้อมกับทำตัวเปิด-ปิดระบบไว้ป้องกันการขโมย แต่ง่ายสุดโดยไม่ต้องลงทุนเจ้าของต้องถอดขั้วแบตเตอรี่ออกทุกครั้ง หลังเลิกใช้งานหรือยกหม้อแบตเตอรี่เข้าไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยหลังใช้งาน เพราะการป้องกันแบบง่าย ๆ บางครั้งขโมยก็คาดไม่ถึง
ขณะที่การจอดรถยังเป็นอีกปัจจัยที่เจ้าของพึงระวัง จึงไม่ควรจอดรถไว้หลังรถบัสหรือรถเมล์ที่มีขนาดใหญ่ ทำให้หัวขโมยมีที่กำบังในการลักรถ ควรจอดรถไม่ให้ไกลตาคน และที่สำคัญเมื่อออกรถใหม่ไม่ควรจอดรถในลักษณะโชว์ เพราะคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ซื้อ รถมาชอบจอดโชว์ พอขโมยเห็นวันแรกอาจไม่ขโมยแต่วันต่อ ๆ ไปจะค่อย ๆ สะกดรอยตามจนหาโอกาสขโมยได้ ถ้าไม่มีพื้นที่ปลอดภัยในการจอดควรซื้อผ้าคลุมรถที่มีราคาถูกเพื่อตบตาขโมย ส่วนคนที่มีพื้นที่บ้านในการจอดรถควรหันหน้ารถเข้าบ้าน เพราะถ้าถูกขโมยเจ้าของบ้านจะได้รู้ตัวเพราะเกียร์ถอยหลังมีอยู่เกียร์เดียว แต่ถ้าหันหน้ารถออกคนร้ายสามารถเร่งความเร็วได้หลายเกียร์
เพื่อป้องกันรถหาย เจ้าของควรติดสติกเกอร์สัญลักษณ์ไว้บนรถอย่างชัดเจน และนำตะไบทำ สัญลักษณ์ไว้บนตัวถังภายในและบนเครื่องยนต์พร้อมกับถ่ายรูปเก็บไว้บนมือถือ เมื่อถูกลักรถสามารถส่งภาพที่ถ่ายไว้ไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทันที
บางกรณีคนร้ายทำการขโมยแบบซึ่ง ๆ หน้า ด้วยการใช้กลอุบายหลอกล่อให้เจ้าของลงมาจากรถขณะเครื่องยนต์สตาร์ตอยู่ โดยหัวขโมยจะแอบขึ้นไปบนรถขณะเจ้าของลงมาจากรถ เหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้ หญิงซึ่งหากประสบเหตุดังกล่าวต้องพยายามขับรถออกจากสถานที่เปลี่ยวตรงนั้นให้ได้ก่อน แล้วเมื่อถึงที่ชุมชนค่อยลงมาดูรถ การซื้อรถมือสองเองควรเปลี่ยนกุญแจในรถใหม่ทั้งคันเพราะเราไม่รู้ว่าเจ้าของคนเดิมมีกุญแจ สำรองไว้หรือเปล่า เพราะหากเจ้าของเก่าเป็นมิจฉาชีพอาจกลับมาขโมยรถ
ส่วนคนที่พอมีเงินติดตั้งสัญญาณเตือนแบบเสียงเตือนเมื่อมีคนมาสัมผัสรถ ไม่ควรตั้งเสียงให้เหมือน กับแตรรถเพราะหากคนไม่สังเกตจะนึกว่ามีคนกดแตรรถเล่นมากกว่าเป็นสัญญาณกันขโมย ที่สำคัญไม่ควรทิ้ง ของมีค่าไว้ในรถเพราะเมื่อคนร้ายส่องผ่านกระจกเข้าไปในรถพอเห็นของมีค่าก็ทำ การทุบกระจกรถยนต์ ซึ่งเมื่อทุบแล้วถ้าปลอดคนและไม่มีระบบป้องกันคนร้ายก็จะเข้าไปภายในรถเพื่อไขกุญแจ
ขณะที่การป้องกัน การโจรกรรมรถมอเตอร์ไซค์ ส่วนใหญ่คนร้ายจะยกขึ้นรถกระบะทันที จึงควรหาที่ล็อก ล้อยึดไว้กับพื้นซีเมนต์ หรือหากุญแจและหูช้างมาคล้องไว้บริเวณรูของดิสก์เบรก ซึ่งทุกครั้งควรล็อกอย่างแน่นหนาไม่ควรให้ขยับเคลื่อนเพราะคนร้ายสามารถเลื่อนไปมาได้ขณะเลื่อยกุญแจ
เดี๋ยวนี้ระบบการ ขโมยรถพัฒนาเท่าทันเทคโนโลยีหมด ต่อให้มีความก้าวล้ำในการป้องกันมากแค่ไหน ผู้ใช้รถจึงต้องมีจิตสำนึกในการหาที่จอดและการประเมินสถานการณ์ด้วยตนเองก่อนในเบื้องต้น แต่ถ้า รถหายควรแจ้ง จส.100หรือโทรฯหมายเลขพิเศษ 1192 และสถานีวิทยุที่ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าของควรส่งสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนรถที่ถ่ายไว้บนมือถือไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อสกัดกั้นก่อน นำไปขายยังชายแดนและชำแหละเครื่องยนต์รักชาติ กล่าวสรุป
จากการรวบรวมสถิติของศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปร. ตร.) พบว่า เขตในกรุงเทพฯและปริมณฑลที่มีรถหายมากที่สุดคือ บางกะปิ ดินแดง จตุจักร วังทองหลาง คลองเตย มีนบุรี ประเวศ บางแค ธนบุรี บางขุนเทียน ตามลำดับ ด้านสถานที่เกิดเหตุรถยนต์หายมากที่สุดตามลำดับคือ ถนนและซอย, สถานที่สาธารณะ, ที่พักอาศัย, ห้างสรรพสินค้า, สถานประกอบการธุรกิจ, สถานที่ราชการ ขณะที่เวลาในการขโมยรถยนต์มากที่สุดตามลำดับคือ 16.00- 20.00 น., 20.00-24.00 น., 00.01-04.00 น., 04.00-08.00 น., 08.00-12.00 น. และ12.00-16.00 น.
ด้านสถานที่ซึ่งมีการขโมยรถจักรยานยนต์มาก ที่สุดตามลำดับคือ ถนนและซอย, สถานที่สาธารณะ, ที่พักอาศัย, สถานที่ประกอบธุรกิจ, สถานที่ราชการ ส่วนช่วงเวลาขโมยมากที่สุดตามลำดับคือ 00.01-04.00 น., 20.00-24.00น., 16.00- 20.00 น., 04.00-08.00 น., 08.00-12.00 น. และ 12.00- 16.00 น.
ดูเหมือนนับวัน เทคโนโลยีป้องกันการ ขโมยรถทันสมัยมากขึ้น แต่ยังไม่พ้นเงื้อมมือเหล่ามิจฉาชีพ คนร้ายที่จับได้หลายครั้งเป็นเพียงลูกน้องปลายแถว คงไม่ต้องให้ประชาชนตั้งคำถามว่า...ถึงเวลาหรือยังที่ต้องกวาดล้างผู้บงการใหญ่?

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557

10 อันดับ รถแพงที่สุดในโลก ปี 2011


สวัสดีคะ เพื่อนๆ วันนี้ TOD นำข้อมูลรถที่ราคาแพงที่สุดในโลก 10 อันดับ ซึ่งคงเป็นรถในฝันของใครหลายๆคน มาให้เพื่อนได้ชื่นชมกันค่ะ เริ่มอุ่นเครื่องกันที่อันดับ 10 กันเลยคะ ^ ^

อันดับที่ 10 SC Ultimate Aero

เจ้าสถิติความเร็วตัวยง 412 กิโลเมตรที่ถูกบันทึกไว้ได้โดย กินเนสบุ๊คนั้น คงไม่ใช่รถที่ใครจะสัมผัสได้ง่ายๆ เพราะมัน
มีค่าตัวถึง 740,000 ดอลล่าร์ นี่ยังไม่นับค่าดูแลรักษาที่ต้องการเป็นพิเศษ และแม้มันจะเริ่มแก่ไปนิด
แต่ความเก๋าของมันนั้น ยังมีอยู่กับสถิตเจ้าความเร็วที่เพิ่งโดน Bugati Veyron Super Sport ลบไปในปีนี้


อันดับที่ 9 Leblanc Mirabeau
ค่ายผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตามเข้ามาในอันดับนี้ กับรถที่เป็นสปอร์ตดิบๆ แต่ราคาแพงเหลือร้าย
กว่า 765,000 ดอลล่าร์ Leblanc Mirabeau นั้นเป็นรถสปอร์ตโรดสเตอร์เปิดหน้าต่างไร้กระจก ให้ความดิบดุดัน
ด้วยเครื่องวางกลางขับหลัง ตามสไตล์การแข่งขันรถ Le-mans ซึ่งรถรุ่นนี้พกแรงม้ามากว่า 700 ตัว ทางด้านหลังคุณ
รับรองไม่มีวันไปทำงานสายๆแน่ๆ





อันดับที่ 8 Koenigsegg CCX
ขยับกันขึ้นมาอีกนิดสำหรับรถสปอร์ตมูลค่า 7 หลัก กับ Koenigsegg CCX ที่มีมูลค่ากว่า 1.1 ล้าน ดอลล่าร์
ค่าตัวที่แพงแลกกับอัตตราเร่ง 0-100 กม/ชม ในเวลาเพียง 3.2 วินาที และ ใน 9.8 วินาที
มันก็สามารถพาคุณถึงความเร็วที่ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วสูงสุดของรถรุ่นนี้มีรายงานว่า
สามารถทะลุเพดานได้กว่า 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ



อันดับที่ 7 Koenigsegg CCXR
ค่าตัว 1.3 ล้านดอลล่าร์ กับเวอร์ชั่นเพิ่มความแรงของ Koenigsegg CCX นั้นถือเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาก
สำหรับเศรษฐี โดยเฉพาะเมื่อเครื่องยนต์ V8 พร้อม Supercharger สามารถทำแรงม้าได้กว่า 806 เมื่อคุณเลือกใช้
ออกเทน 98 แต่ที่น่าสนใจคือรถรุ่นนี้รองรับการใช้งานของ E85 และ E 100 ซึ่งเมื่อได้รับน้ำมันดังกล่าวนั้น
มันจะมีพละกำลังกว่า 1,018 แรงม้า เลยทีเดียว




อันดับที่ 6 Maybach Landaulet
Maybach Landaulet ที่มาพร้อมค่าตัว 1.4 ล้านดอลล่าร์นั้น มันอาจจะไม่ใช่ รถสปอร์ตพันธุ์แรงมากมาย
เหมือนที่ผ่านมาแต่น่าสนใจด้วยความหรูหราและแน่นนอนขุมพลัง V12 พร้อมแรงม้า 612 แรงม้านั้น
อาจมองไม่คุ้มค่ากับที่จะจ่าย แต่ถ้าคุณรู้ว่ารถรุ่นนี้หรูเพียงใด คงอาจจะไม่ปฏิเสธที่จะอยากได้มัน




อันดับที่ 5 Lamborghini Reventon
เจ้ากระทิงดุ ชื่อแปลกๆ ผลิตออกมาจำหน่ายเพียง 20 คัน พร้อมค่าตัวสุดแพงกว่า 1.42 ล้านดอลล่าร์นั้น
เป็นอะไรที่หลายคนคงชอบ และแน่นอน ค่าตัวที่แสนแพงมาพร้อมความแรงจากเครื่องยนต์ V12
ที่ทะยานได้ว่องไว และคล่องตัวในทุกสมรรถนะการขับขี่กับ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ




อันดับที่ 4 Lamborghini Reventon Roadster
เจ้ากระทิงดุพันธ์แรงเวอร์ชั่นโรดสเตอร์นั้น ตามมาติดๆ และมันขึ้นนำในเรื่องความแพงกว่าเวอร์ชั่นธรรมดา
สูงถึง 1.56 ล้านดอลล่าร์ และทุกอย่างมีความสวยงามมากกว่าเดิม จนน่าหามาใช้สักคัน




อันดับที่ 3 Roadster Pagani Zonda Cinque
อีกหนึ่งสปอร์ตพันธุ์แรงแดนมักกะโรนี ที่แพงและความแรงที่ไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว ค่าตัวกว่า 1.8 ล้านดอลล่าร์
ของ Roadster Pagani Zonda Cinque ความแพงที่สุดแสนจะบรรยายนี้มาจากเครื่องยนต์ V12ที่บรรจุเอาไว้ในรถ
ให้แรงม้าเพียง 678 แรงม้า แต่มีความแรงในระดับ 0- 100 กม/ชม ในเวลาเพียง 3. 4วินาที และความเร็วปลาย
ให้คุณได้สะใจกว่า 349 กิโลเมตรต่อชั่วโมง




อันดับที่ 2 Bugatti Veyron Grand Sport
เจ้าVeyron ยังคงแพงเหมือนเคยและครองตำแหน่งในอันดับ 2 ในปีนี้กับค่าตัวระดับ 2 ล้านดอลล่าร์
ที่ไม่ใช่จะเป็นเจ้าของกันง่ายๆเสียด้วย เรื่องสมรรถนะความแรงระดับเจ้าสถิติโลกความเร็วปัจจุบันนั้น
คงไม่ต้องพูดถึง แต่ถ้าคุณซื้อเวย์รอนมาขี่ แน่นอนคุณต้องชอบความเร้วและทันสมัย
บวกกับความหรูหราของมัน





อันดับที่ 1 Koenigsegg Trevita
แพงที่สุดและหาตัวจับยากที่สุดกับค่าตัว 2.21 ล้านดอลล่าร์ ถือว่าไม่ใช่อะไรที่แพงถ้าคุณกำลังมองหารถหายากที่สุด
รุ่นหนึ่งบนถนนกับเจ้า Koenigsegg Trevita ที่เป็นรุ่นพิเศษกว่าเดิม 1,018 แรงม้า จากรุ่นปกติคงเป็นอะไรที่
ไม่สามารถพบได้บ่อยนักจากเครื่องยนต์ V8 และแน่นอน มันพิเศษจริงๆ



เป็นยังไงกันบ้างคะ กับรถ 10 อันดับที่แพงที่สุดในโลก เห็นแล้วน้ำลายไหลกันบ้างหรือเปล่า
แต่ถ้าลองจินตนาการเล่นๆ ว่าถ้าเป็นรถเราจริงๆ คงจะตกเป็นเป้าหมายหลักของพวกโจรกรรมรถยนต์แน่ๆ
จะขับไปไหนแต่ละครั้ง คงต้องคิดหาวิธีจอด สถานที่จอด ที่ปลอดภัยสำหรับรถสุดหรูของเรา
TOD มีข้อเสนอแนะคะ อย่าเพิ่งจินตนาการเป็นห่วงรถคันหรูในฝันเลยคะ ลองมองรถยนต์คันโปรดของ
เพื่อนๆ ตอนนี้ก่อนดีกว่าคะ ว่ามีระบบรักษาความปลอดภัยที่ไว้ใจได้แล้วหรือยัง ถ้ายังลองพิจารณา
TOD GPS Tracking ให้คอยรักษาความปลอดภัยรถคันโปรดของเพื่อนๆ ที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อ
แลกมาด้วยการเก็บหอมรอบริบ เพื่อไม่ให้ต้องตกเหยื่ออันโอชะของพวกโจรกรรมรถยนต์

อย่าลืมนะคะ รถหายเรื่องเดิมๆ แต่มีเพิ่มทุกวัน
เพราะฉะนั้น "อุ่นใจไปกับTODทั้งก่อนและหลังรถถูกขโมย "

วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557

การดูแลรักษารถเบื้องต้น

ในระบบสตาร์ทรถยนต์โดยทั่วไป ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลที่กุญแจสตาร์ทจะต้องบิดกุญแจ 3 จังหวะ คือ AC , ON และ START ผู้ขับขี่บางท่านอาจจะปิดกุญแจรวดเดียว 3 จังหวะไปที่ START ถ้ารถท่านเป็นรถใหม่ก็อาจจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ารถท่านผ่านการใช้งาน
มานาน ๆ อาจต้องสตาร์ทหลายครั้งก่อนที่เครื่องยนต์จะติด ซึ่งระหว่างที่ท่านสตาร์ทรถหลาย ๆ ครั้งนั้น ท่านกำลังทำลายระบบสตาร์ทให้อายุการใช้งานสั้นลง วันนี้เรามีคำแนะนำการสตาร์ทรถที่ถูกวิธี ท่านจะไม่ต้องมานั่งสตาร์ท แชะ แชะ แชะ ให้เสียฟอร์ม และยังเป็นการยืดอายุระบบสตาร์ทให้ใช้งานได้ ดีอีกนานแสนนาน ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

                                    

  1. ปิดอุปกรณ์ที่ใช้ระบบไฟทั้งหมดในรถ เช่น เครื่องปรับอากาศไฟหน้า และเครื่องเสียงต่าง ๆ เพื่อให้แบตเตอร์รี่จ่ายไฟเต็มที่
  2. เหยีบครัชให้สุด (สำหรับเกียร์ AUTO ให้เข้าเกียร์ที่ตำแหน่ง N หรือ P เพื่อผ่อนแรงมอร์เตอร์สตาร์ท
  3. บิดกุญแจมาที่ตำแหน่ง ON ค้างไว้ ตราวจเช็คไฟเตือนต่าง (รายละเอียดให้ศึกษาจากคู่มือรถ) รอจนไฟเตือนหัวเผารูปขดสปริงเปลี่ยนจาก สีแดงเป็นสีเขียว หากเครื่องยนต์เย็นควรกดแป้นคันเร่ง 1 ครั้ง
  4. บิดกุญแจสตาร์ทเท่านี้คุณก็ไม่ต้องนั่งเสียฟอร์มสตาร์ทรถ แชะ แชะ แชะแล้ว
ขอให้ทำจนเป็นนิสัยไม่ว่ารถเก่าหรือรถใหม่ หากทำตามวิธีนี้แล้วไม่ได้ผลให้ ท่านนำรถเข้าตรวจเช็คที่ศูนย์บริการหรือร้านซ่อมระบบไฟไดชาร์ท ไดสตาร์ทโดยทั่วไป