วิธีป้องกันรถหาย
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์
รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล
1. ล็อคมันไว้ Lock it
- ล็อคกุญแจ ไม่ว่าจะในบ้าน-นอกบ้าน จอดนาน-ไม่นาน รถที่ล็อคมีโอกาสหายน้อยลง 3.55 เท่า และรถที่หายส่วนหนึ่งมีกุญแจ แต่ลืมล็อค
- ใช้ที่ล็อครถอย่างน้อย 2 ระบบที่ใช้กลไก หรือรูปแบบการป้องกันไม่เหมือนกัน
ต่างยี่ห้อกันมาใช้
- ล็อครถชนิดที่มีลักษณะเป็นวงรอบ (Disc lock) หรือล็อคตัวยู (U-lock) จะดีกว่าแบบคีบหรือหนีบ (Fork lock)...
- ใช้โซ่ล่ามไว้กับเสา หรือสิ่งที่ยึดติดกับพื้นดีกว่าไม่ใช้โซ่
- ล็อคกุญแจหรือโซ่ให้แน่นมีโอกาสหายน้อยกว่าล็อคหลวมๆ (ยิ่งหลวมยิ่งตัดหรือทุบได้ง่ายขึ้น)
...
- การทำระบบป้องกันขโมยรถยนต์แบบทำเอง เสริมเข้าไปอีกช่วยได้มาก
แต่ควรใช้ร่วมกับระบบล็อคทั่วไปด้วยเสมอ เช่น จากล็อค 2 ระบบเพิ่มเป็น 3-4 ระบบ
- ถ้าซื้อรถใหม่ (ไม่ว่าจะมือ 1 หรือ 2)... ต้องเปลี่ยนระบบกันขโมยใหม่เสมอ
ระบบกันขโมยที่ติดตั้งก่อนซื้อรถอาจถูกทำสำเนากุญแจไว้แล้ว
2. ปกปิดมันไว้ Cover it
- ก่อนให้ใครเข้ามาใกล้บ้าน หรือเข้ามาในบ้านต้องปกปิดทรัพย์สินมีค่าเสมอ
- ระวังพวกที่ชอบสอดรู้สอดเห็น เช่น พนักงานติดตั้งเครื่องไฟฟ้า หรือคนงานสำนักงานที่ชอบถามเรื่องซอกแซกในบ้าน
ฯลฯ มักจะเป็นสายให้โจร หรือเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ ...
- อย่าทำตัวรวย เช่น ใส่ทอง ทำตัวหรู ฯลฯ หรือจอดรถไว้ให้คนที่ผ่านหน้าบ้านเห็นได้ง่าย...
ควรหาผ้าคลุมแบบราคาไม่แพงมาคลุมไว้(ถ้าทำได้) โดยเลือกผ้าคลุมแบบราคาไม่แพง ยิ่งแพงยิ่งเสี่ยง ...
- ไม่ควรวางสิ่งของมีค่าไว้ในรถยนต์ หากจำเป็นควรเก็บซุกซ่อนให้มิดชิด
ไม่ควรวางไว้ที่เบาะนั่ง เพราะจะเป็นการล่อให้คนร้ายกระทำความผิด
3. พิจารณาติดตั้งเครื่องกันขโมยแบบส่งเสียงดัง Consider an alarm
- เครื่องกันขโมยแบบนี้จะใช้ได้ดีต้องมีเสียงแปลกๆ ไม่เหมือนแตรค้าง
- ระบบเตือนภัยขโมยผ่านโทรศัพท์มือถือ ถึงแม้เรื่องนี้จะยังไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน(อาจเป็นเพราะราคาแพง)... แต่ในอนาคต จะมีการเชื่อมโยงระบบดังกล่าวกับแผนที่ดาวเทียม
GPS เพื่อระบุพิกัดให้ตำรวจติดตามได้ทันที...
4. อย่าโชว์ความรวยหรู Don't be a show-off
- จอดรถไว้ในบ้าน ปิดประตูรั้ว และล็อครั้วบ้านเป็นประจำ... อย่าจอดรถโชว์ไว้หน้าบ้าน
- อาจารย์ท่านกล่าวไว้ดี คือ "It's simple: The more your bike is out of sight, the more it's out
of a thief's mind." = "หลักการง่ายๆ คือ
อะไรที่อยู่นอกสายตา (รถ) ก็จะอยู่นอกหัวใจขโมย" ...
5. เสริมรั้วให้แข็งแรง Reinforce your garage
- ควรใช้รั้วที่แข็งแรง ติดสัญญาณกันขโมยรั้วไว้ด้วย (ที่รถก็ติด...
ที่รั้วก็ติด)
- ถ้าใช้รถมอเตอร์ไซค์... ให้ทำห่วงยึดติดไว้กับพื้น
แล้วล่ามโซ่หนักๆ ยึดรถติดไว้กับพื้นด้วย
ล็อคกุญแจหลายๆ ระบบด้วย ...
- ควรติดตั้งโทรทัศน์วงจรปิด หรือระบบความปลอดภัยทั้งในตัวบ้านและโรงรถ(ถ้าเป็นไปได้)
และติดตั้งเครื่องกีดขวาง เช่น ถังที่เวลาเลื่อนจะเกิดเสียงดัง ฯลฯ
ขวางไว้อีกชั้นหนึ่ง ...
6. ทำให้รถใช้การไม่ได้
(ชั่วคราว) Disable your bike or car
- คนที่ชำนาญเรื่องช่างอาจถอดอุปกรณ์รถง่ายๆ เช่น ถอดฟิวส์ (Fuse) รถออก ทำสัญญาณตัดไฟ
(ชนิดทำเองมีแนวโน้มจะได้ผลดี โดยเฉพาะถ้าคิดแบบที่โจรทั่วไปไม่รู้จักได้) ฯลฯ
เก็บไว้กับตัวก่อนจอดรถทิ้งไว้
- โจรและขโมยส่วนใหญ่ก็คล้ายกับนักลงทุนทั่วไป คือ มักจะชอบอะไรที่
"ง่ายๆ" มากกว่า "ยากๆ" และจะเลือกรถที่ขโมยได้ง่ายกว่าในเวลาเท่าๆ
กันเสมอ ...
7. เลือกที่จอดรถให้รอบคอบ Choose parking spots carefully
- อย่าจอดรถในจุดอับสายตา โจรและขโมยจะทำงานได้ง่ายขึ้น
- เลือกจอดใกล้ๆ จุดที่มีคนอยู่ประจำแทนการจอดไกลๆ หรือฝากรถไว้ถ้าเป็นไปได้ และจอดในที่ที่มีแสงไฟสว่างพอ
- ถ้ามีรถคันอื่นขับตาม... ควรพิจารณาเปลี่ยนแผนการเดินทาง และรีบไปยังที่ที่ปลอดภัยทันที
- ถ้าฝาที่เติมน้ำมันชนิดที่ต้องใช้กุญแจไขหาย...
ให้คิดไว้ก่อนเลยว่า ถูกปั๊มกุญแจไปแล้ว...
8. ระวังพวกขอลองรถ Be wary of test rides
- เราซื้อหรือผ่อนรถมาใช้ ไม่ใช่ให้คนอื่นลองขับ เพราะฉะนั้นอย่าให้ใครมาขอลองขับรถของเรา
- ถ้าขอดูรถซื้อขาย, หรือ นัดพบในที่เปลี่ยว ให้ระวัง
- ควรฝึกล้างรถด้วยตนเอง... การให้พนักงานล้างรถ "ลองขับ"
รถตอนนำรถไปทำความสะอาดเป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรลอง เพราะอาจถูกก๊อปปี้กุญแจ
ทำสำเนาสัญญาณกันขโมย และขโมยรถในเวลาต่อมาได้
- ถ้าจำเป็นต้องใช้บริการล้างรถ หรือศูนย์บริการ...
ควรให้กุญแจไปน้อยดอกที่สุด และให้เฉพาะกุญแจรถดอกเดียว อย่าให้กุญแจล็อคระบบอื่นๆ
และอย่าให้กุญแจบ้าน เพราะจะเสี่ยงของในบ้านหาย ...
- เมื่อนำรถไปซ่อม ควรเฝ้าดู และรอรับรถกลับ หากต้องฝากรถไว้ ให้เลือกอู่ที่รู้จักเป็นการส่วนตัว
ไว้ใจได้
9. ทำร่องรอยไว้ Mark your territory
- ขโมยรถอาจนำรถไปขายทั้งคัน หรือถอดขายเป็นชิ้นๆ...
การจดหมายเลขเครื่อง (ถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอลไว้ก่อน)
และชิ้นส่วนต่างๆ ไว้
- การติดชื่อหรือเครื่องหมายไว้ซ่อนไว้ในที่พิเศษในรถอาจช่วยให้ตำรวจติดตามรถได้ดีขึ้น ..
- บริษัทผู้ผลิตหรือจำหน่ายรถยนต์ที่พัฒนาระบบกันขโมยรถยนต์ได้ดีมีแนวโน้มจะได้รับความเชื่อถือมากขึ้นในระยะยาว
เช่น ศูนย์บริการรถของตัวแทนจำหน่าย ฯลฯ ควรมีระบบตรวจสอบว่า รถคันนี้ขโมยมาหรือไม่เสมอ
ฯลฯ
10. ลดความเสี่ยง
- การเลือกรถรุ่นที่ "ดีอันดับสอง" จะช่วยให้ประหยัด
มีเงินเหลือไว้เติมน้ำมัน หรือทำประกันรถหายได้
- การใช้รถยี่ห้อหรือรุ่นที่โจรชอบน้อยลงเป็นทางเลือกหนึ่งที่อาจช่วยป้องกันรถหายได้ในระดับหนึ่ง
ซึ่งติดตามสอบถามได้จากเว็บไซต์ของตำรวจไทย ...
- นอกจากนั้นการที่เพื่อนบ้านจะช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันเฝ้าบ้าน
หรือรวมกลุ่มกันจ้างทีมงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ไว้ช่วยอีกแรงหนึ่งก็ช่วยลดความเสี่ยงได้มากเช่นกัน
...
11. การขายดาวน์รถ
- ดาวน์รถมาเพื่อขับขี่เท่านั้น
ไม่นำไปให้ผู้อื่นเช่า หรือขายดาวน์
โดยทำสัญญาโอนลอย วิธีขายดาวน์ที่ถูกต้อง
ต้องพากันไปเปลี่ยนสัญญาซื้อขายที่ไฟแนนท์เท่านั้น
- ระมัดระวังแก๊งหลอกซื้อดาวน์
จะปลอมแปลงเอกสารบัตรประชาชน และว่าจ้างให้บุคคลอื่นมาขอซื้อดาวน์แทน แล้วเชิดนำรถหนีไป
12. เมื่อรถหายทำอย่างไร
- แจ้งผ่านทางสายด่วน 1599 หรือ ทางเวปไซต์ www.lostcar.go.th ซึ่งเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลรถหาย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อติดตามรถที่ถูกโจรกรรมหรือ
สามารถตรวจสอบรถว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมมาหรือไม่
- แจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุโดยเร็วที่สุด
13. ทำประกันภัยภาคสมัครใจ
- ทำประกันภัยรถหายไว้
หากรถหายก็ยังมีค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัยมาช่วยบรรเทาความเสียหาย
(เค้าทำกันทั่วโลกแล้ว เหลือบ้านเรานี่แหละไม่ค่อยทำกัน)
- ไม่ควรยินยอมให้เด็กหรือเยาวชน
ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์/รถจักรยานยนต์ หรือยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ
นำรถไปใช้
ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์
รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.) หรือ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล
(บก.สส.บช.น.)
71/1 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400 โทร. 02-354-5162
วีธีป้องกันการโจรกรรมรถยนต์
รถจักรยานยนต์ และแจ้งเหตุรถหายไปยังศูนย์รับแจ้งเหตุ (lostcar) 1599
จัดทำโดย ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์
รถจักรยานยนต์ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศปจร.น.)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น